g-torrent.ru
ธรรมทาน หมายถึงการให้อะไรก็ตามที่ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ เช่น การให้ความรู้ ให้อภัย ให้สติ ให้ข้อคิด เป็นต้น แบ่งออกเป็น (1) เป็นความรู้ทางโลก เช่น ให้ศิลปวิทยาการต่าง ๆ เรียกว่า วิทยาทาน (2) เป็นความรู้ทางธรรม เช่น สอนให้ละชั่ว ประพฤติดี ทำใจให้ผ่องใส เรียกว่า ธรรมทาน การให้ธรร มะเป็นทาน ถือว่าเป็นการให้ทานที่ได้บุญสูงสุด มีคุณค่ากว่าการให้ทานทั้งปวง เพราะทำให้ผู้รับมีปัญญารู้เท่าทันกิเลส สามารถนำไปใช้ได้ไม่รู้จักจบสิ้น ทั้งชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ส่วนทานชนิดอื่น ๆ ผู้รับได้รับแล้วไม่ช้าก็หมดสิ้นไป ดังพุทธพจน์ที่ว่า สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง
มาถึงตรงนี้แล้วจากคำถามเบื้องต้นว่า บุญ คือ อะไร?. ทาน ศีล สมาธิ เป็นบุญหรือไม่? เราคงจะพอตอบกันได้แล้วว่า "บุญ คือ กระแส หรือ พลังบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการทำความดี" เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ทำความดี (เบื้องต้น คือ ทาน ศีล ภาวนา) กระแสบุญก็จะเกิดขึ้นมา เป็นกระแสแห่งความบริสุทธิ์ ที่มีพลังสามารถส่งผลให้เกิดอานิสงส์ที่ดีต่อเรามากมายข้ามภพข้ามชาติ. นอกจากนี้บุญยังเปรียบประดุจแก้วสารพัดนึก ที่เมื่อเราสร้างบุญด้วยการทำความดีต่างๆ แล้ว หากเราอธิษฐานจิตจำเพาะเจาะจงลงไปในสิ่งที่เราปรารถนา พลังแห่งบุญนั้นหากมีเพียงพอ ก็จะส่งผลให้สิ่งที่เราปรารถนาสำเร็จได้ในที่สุด (ในเรื่องการอธิษฐานจิตนี้ก็จะขอแยกอธิบายในรายละเอียดต่อไป). ส่วน ทาน ศีล ภาวนา ก็แน่นอนว่า เป็นส่วนหนึ่งของทางมาแห่งบุญ บุญเปรียบเสมือนภาพใหญ่ของการทำความดีทั้งหมด และ ทาน ศีล ภาวนา ก็คือส่วนหนึ่งในทางมาแห่งบุญทั้ง 10 ประการนั่นเอง. ขอให้ทุกท่านหมั่นสั่งสมบุญกันให้ได้ทุกวัน แค่แบ่งปัน ไม่เบียดเบียน และทำจิตให้สงบผ่องใส เท่านี้บุญก็เกิดขึ้นอย่างมากมายนับไม่ได้ทีเดียว. Cr. ภาพ google #เสียงเทศน์กิเลสผงะ อย่าลืม! กด Like Page เสียงเทศน์กิเลสผงะ เลือก See first เพื่อรับ Feed ธรรมะ ทุกวัน #คำคมธรรมะ #ธรรมะ ดีต่อใจ ใครก็เเชร์ #กรรม #ละชั่วทำดี #ดีต่อใจใครก็ชอบ #นรก สวรรค์
Q: ทานในอนุปุพพิกถาเป็นทานประเภทไหน? A: อามิสทาน/เป็นลักษณะการสละออก ทานโดยใช้สิ่งของภายนอก ทั้งนี้ เราทำอะไรทางกาย ก็มีผลทางใจด้วย เพราะกาย วาจา ใจ มันเกี่ยวเนื่องกัน เราสละสิ่งที่เป็นอามิส กิเลส ราคะ โทสะ โมหะ ก็จะลดลงด้วย Q: อภัยทานกับอโหสิกรรม เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? A: ในความหมายของภาษาไทยนั้นนำมาใช้แทนกันได้ โดย อโหสิกรรม จะมีอุเบกขา นำ เน้นมาในทางไม่ผูกเวรต่อ อภัยทานมีเมตตากรุณานำ โดยทั้ง 2 อย่างนั้น สำคัญที่ใจต้องไม่ผูกโกรธ Q: บุญที่เกิดจากอภัยทานกับธรรมทาน เหมือนหรือต่างจากบุญที่เกิดจากอามิสทานอย่างไร? A: การให้ทานล้วนเป็นบุญทั้งสิ้น จะเหมือนหรือแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้สิ่งไหน อยู่ที่ผู้ทำและผู้รับด้วย Q: อดทนต่อคำด่า ไม่โต้ตอบแล้วทำให้คนที่ด่า โกรธมากขึ้น จะเป็นการเพิ่มอกุศลกรรมให้กับคนที่ด่าหรือไม่/ควรทำอย่างไร? A: สิ่งที่ควรทำ คือ อดทน ไม่โต้ตอบ ทำด้วยเจตนาที่ดี/คนไม่ดี พอเห็นความดีแล้วไม่พอใจ ก็เป็นธรรมดา ด้วยอำนาจโมหะเขาจึงโกรธมากขึ้น จะสุขหรือทุกข์เป็นผลที่เกิดจากโมหะของเขาเอง Q: ลักษณะของวาจาด่าทอว่าร้าย 5 คู่ A: 1. ว่าด้วยเรื่องที่จริง-ไม่จริง 2. เป็นประโยชน์-ไม่เป็นประโยชน์ 3.
เรามาดูที่ศีล 5 สำหรับบุคคลทั่วไป 1) ปาณาติปาตา เวรมณี คือ งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป 2) อทินนาทานา เวรมณี คือ งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้ 3) กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี คือ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม 4) มุสาวาทา เวรมณี คือ งดเว้นจากการกล่าวเท็จ (รวมถึงพูดคำหยาบ ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ) 5) สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี คือ งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท (รวมถึงสิ่งเสพติดทุกชนิด).
23 Feb Posted February 23, 2011 by yoniso in โลกุตตรธรรม. 1 Comment ทานกุศลแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ 1. อามิสทาน 2. ธรรมทานและอภัยทาน ดังจะได้อธิบายโดยลำดับดังต่อไปนี้ อามิสทาน คืออะไร การบริจาคหรือการเสียสละทรัพย์สินเงินทองข้าวของ ตลอดทั้งกำลังกายและสติปัญญาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ด้วยคุณธรรมคือ เมตตา กรุณา มุทิตา พรหมวิหาร การเสียสละวัตถุสิ่งของหรือสิ่งที่เนื่องกันเช่นกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เป็นต้น เหล่านี้เรียกว่า อามิสทาน เมื่อเราบริจาคหรือเสียสละไปแล้ว เป็นกุศลคุณความดี มีอานิสงส์หรือมีผลอย่างไร?
สิ่งของที่จะให้ต้องบริสุทธิ์ (วัตถุทาน) คือ ได้มาด้วยความชอบธรรมไม่ผิดศีลธรรม และเป็นสิ่งของที่เหมาะสมแก่ผู้รับ ไม่เป็นสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม อันนำมาซึ่งความเบียดเบียน เช่น สุรา สิ่งเสพติดทุกชนิด อาวุธ และสื่อลามกต่าง ๆ ๒. ผู้ให้จะต้องให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยมุ่งหมายอนุเคราะห์บูชาคุณผู้รับ และขจัดความตระหนี่ในใจตน ๓. ผู้ให้ต้องมีความเข้าใจเรื่องทาน มีปัญญารู้จักเลือกให้ ๔. ผู้ให้ต้องพยายามรักษาศรัทธาทั้งในก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ ๕. ผู้รับ มีส่วนสำคัญกับผลของทาน คือ ผลหรืออานิสงส์ของทานจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับบุญคุณและคุณธรรมของผู้รับ ๖. ผู้ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมสูงขึ้นไปมีศีลเป็นต้น จะทำให้ทานมีอานิสงส์มากขึ้น จุดมุ่งหมายแห่งทาน ส่วนตน ขจัดความตระหนี่อันเป็นมลทินในจิตใจ ที่คอยขัดขวางไม่ให้คุณธรรมอื่น ๆ เจริญ ส่วนสังคม บำเพ็ญตนเป็นประโยชน์แก่สังคม ทำให้ผู้อื่นได้รับความสุข แบ่งได้เป็น ๓ ประเภท คือ ๑. ทานที่ให้เพื่อทำคุณแก่ผู้รับ เช่น การให้ทานเพื่อให้ตนเป็นที่รักที่ชอบใจของประชาชนเป็นต้น ๒. ทานเพื่ออนุเคราะห์ ไม่ใส่ใจว่าจะเป็นบุญคุณหรือไม่ ทำไปเพื่ออนุเคราะห์ด้วยความเต็มใจ ๓.
ทาน โสภณ จาเลิศ ทาน หมายถึงการให้ การเสียสละ การแบ่งปัน การบริจาค ถ้าจะแบ่งประเภทของ ทาน ว่ามีกี่ประเภท น่าจะมาพิจารณาว่าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง ถ้าจะแบ่งโดยอาศัยสิ่งที่ให้ หรือสิ่งที่ทำทาน เป็นเกณฑ์ ก็น่าจะแบ่งง่าย ๆ เป็น 2 ประเภท คือ 1. อามิสทาน คือการให้ การแบ่งปัน การบริจาควัตถุ สิ่งของ ต่าง ๆ 2. ธรรมทาน คือการให้ธรรม ให้ความรู้ ถ่ายทอดวิชาความรู้ วิชาการต่าง ๆ หรือการแนะนำ อบรมสั่งสอน ถ้าจะแบ่งโดยพิจารณาถึงผู้รับเป็นเกณฑ์ ก็น่าจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ปาฏิบุคลิกทาน คือการให้จะเพาะบุคคล ทานที่ให้เจาะจงตัวบุคคล หรือให้เฉพาะแก่บุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง 2. สังฆทาน คือการให้แก่สงฆ์, ทานที่ถวายแก่สงฆ์เป็นส่วนรวม เช่น พระภิกษุ หรือ ภิกษุณี อย่างเป็นกลาง ๆ ในฐานะเป็นตัวแทนสงฆ์ โดยอุทิศต่อสงฆ์ ไม่เจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง ในบาลีเดิม เรียก ปฏิบุคลิกทาน ว่า ปฏิปุคฺลิกา ทกฺขิณา หมายถึงของที่ให้จำเพาะบุคคล และเรียก สังฆทาน ว่า สงฺฆตา ทกฺขิณา คือของถวายหรือของให้ที่ถึงในสงฆ์ เอกสารอ้างอิง พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับปนะมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 24. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา, 2556.
ธรรมทาน ธรรมทาน หมายถึง การให้ธรรมะ คือ การให้ความรู้ความเข้าใจ ความเห็นถูกในธรรมะ โดยทั่วไป มีการจำแนกการให้ ๒ อย่าง คือ ให้อามิส ๑ ให้ธรรมะ ๑ การให้วัตถุสิ่ง ของเงินทองเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งหมดเป็นการให้อามิส ส่วนการสอนผู้อื่นให้รู้ ความจริง เป็นการให้ธรรมะ สำหรับการให้หนังสือธรรมะแก่ผู้อื่น ต้องดูที่เจตนา ถ้าม เจตนาให้เขาได้อ่าน และเข้าใจมีความเห็นถูกอย่างนี้เป็นธรรมทาน ถ้าให้ส่งไปเหมือน กับการให้ของสิ่งอื่นอย่างอื่นอย่างนี้ควรจะเป็นการให้อามิส ทานกุศลแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ 1. อามิสทาน 2. ธรรมทานและอภัยทาน ดังจะได้อธิบายโดยลำดับดังต่อไปนี้ อามิสทาน คืออะไร การบริจาคหรือการเสียสละทรัพย์สินเงินทองข้าวของ ตลอดทั้งกำลังกายและสติปัญญาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ด้วยคุณธรรมคือ เมตตา กรุณา มุทิตา พรหมวิหาร การเสียสละวัตถุสิ่งของหรืสิ่งที่เนื่องกันเช่นกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เป็นต้น เหล่านี้เรียกว่า อามิสทาน เมื่อเราบริจาคหรือเสียสละไปแล้ว เป็นกุศลคุณความดี มีอานิสงส์หรือมีผลอย่างไร?
ทาน หมายถึง การให้ การแบ่งปัน การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ วัตถุที่พึงให้ ทานที่แปลว่า การให้ การแบ่งปัน การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ หมายถึงการให้ทานด้วยจิตใจที่ดีงาม มุ่งเพื่อ บูชา พระคุณ เช่นที่ให้แก่บิดามารดา ถวายแก่ พระสงฆ์ เป็นต้นบ้าง มุ่งเพื่อสงเคราะห์ เช่นที่ให้แก่คนตกทุกข์ได้ยาก ให้แก่คนทั่วไปด้วยความกรุณาสงสารบ้าง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อามิสทาน และธรรมทาน 1.
ให้สุรายาเสพย์ติด เช่น บุหรี่ เหล้า ฝิ่น กัญชา ยาบ้า ฯลฯ ๒. ให้อาวุธ เช่น เขากำลังทะเลาะกัน ยื่นปืน ยื่นมีดให้ ๓. ให้มหรสพ เช่น พาไปดูหนังดูละคร ฟังดนตรี เพราะทำให้กามกำเริบ ๔. ให้สัตว์เพศตรงข้าม เช่น หาสุนัขตัวเมียไปให้ตัวผู้ หาสาวๆ ไป ให้เจ้านาย ฯลฯ ๕. ให้ภาพลามก รวมถึงหนังสือลามกและสิ่งยั่วยุกามารมณ์ทั้งหลาย วิธีทำทานให้ได้บุญมาก การทำทานให้ได้บุญมาก ต้องพร้อมด้วยองค์ ๓ คือ ๑. วัตถุบริสุทธิ์ ของที่จะให้ทานต้องเป็นของที่ตนได้มาโดยสุจริตชอบธรรม ไม่ได้คดโกงหรือเบียดเบียนใครมา ให้ทานด้วยน้ำพริกผักต้มที่ได้มาโดยบริสุทธิ์ ได้กุศลมากกว่าให้อาหารโต๊ะจีนราคาตั้งพันด้วยเงินทองที่ได้มาโดยไม่บริสุทธิ์ ๒. เจตนาบริสุทธิ์ คือมีเจตนาเพื่อกำจัดความตระหนี่ของตน ทำเพื่อเอาบุญ ไม่ใช่เอาหน้าเอาชื่อเสียง ไม่ใช่เอาความเด่นความดังความรัก จะต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ทั้ง ๓ ขณะ คือ - ก่อนให้ก็มีใจเลื่อมใสศรัทธาเป็นทุนเดิม เต็มใจที่จะทำบุญนั้น - ขณะให้ก็ตั้งใจให้ ให้ด้วยใจเบิกบาน - หลังจากให้ก็มีใจแช่มชื่น ไม่นึกเสียดายสิ่งที่ให้ไปแล้ว ๓.
Sitemap | g-torrent.ru, 2024