g-torrent.ru
กัดผ้าก๊อซนาน 1 ชั่วโมง กลืนน้ำลายตามปกติ 2. ห้ามบ้วนเลือดและน้ำลาย เพราะอาจทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ 3. หลังคายผ้าก๊อซแล้ว ถ้ามีเลือดซึมจากแผลผ่าตัด ให้ใช้ผ้าก๊อซที่สะอาดกัดใหม่อีกประมาณ ½ ชั่วโมง 4. ประคบน้ำแข็งบริเวณแก้ม เฉพาะวันที่ทำผ่าตัด 5. รับประทานอาหารอ่อน 6. รับประทานยาให้ครบตามที่ทันตแพทย์สั่ง 7. งด ออกกำลังกาย หรือ เล่นกีฬา 8. แปรงฟันทำความสะอาดในช่องปากตามปกติ 9. ตัดไหมหลังผ่าตัด 7 วัน 10.
สวัสดีค่ะ คุณ ผู้ชายเปื้อนฝุ่นกอดมั่ยอุ่น เท่าคนมีตังค์, โดยปกติฟันกรามซี่สุดท้ายมักจะขึ้นในช่วงอายุ 17-25 ปี ดังนั้น หากเห็นฟันกรามซี่ด้านในสุดโผล่ไม่พ้นเหงือก ก็จะเรียกว่าเกิดฟันคุดขึ้น ซึ่งส าเหตุส่วนใหญ่เกิดจากขนาดของกรามไม่สัมพันธ์กับขนาดของฟัน ลักษณะอาการของฟันคุด คือ ปวดบวมบริเวณเหงือก บางคนอาจมีอาการบวมบริเวณคาง การรั กษา คือการผ่าเอาฟันคุดออก หากไม่ผ่าเอาออก ผลที่ตามมาได้แก่ 1. การอักเสบของเหงือกที่ปกคลุมฟัน เพราะเศษอาหารมีโอกาสติดเข้าไปใต้เหงือกได้ง่าย และการทำความสะอาดมักทำได้ยาก เศษอาหารเหล่านี้ก็จะเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบตามมา และอาจกลายเป็นฝีหนองทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง จนกระทั่งเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ 2. การละลายตัวของกระดูก แรงดันจากฟันคุดที่พยายามดันขึ้นมา จะทำให้กระดูกรอบรากฟันและกระดูกรากฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียงถูกทำลาย 3. การเกิดถุงน้ำ ฟันคุดที่ทิ้งไว้นานอาจจะทำให้เนื้อเยื่อที่หุ้มรอบฟันคุดขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นถุงน้ำ แล้วโตขึ้นโดยไม่แสดงอาการเลย จนในที่สุดเกิดการทำลายฟันซี่ข้างเคียง และกระดูกรอบๆ บริเวณนั้น หากไม่เคยได้รับการตรวจฟันมักจะรู้ตัวอีกทีเมื่อเห็นใบหน้าเอียงหรือขากรรไกรข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้าง 4.
ผ่าฟันคุด คืออะไร?
ฟันคุด มีกี่แบบ?? ฟันคุดเป็นฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาในช่องปากได้หรืออาจจะโผล่ขึ้นมาได้เพียงบางส่วน ฟันซี่ที่พบว่าเป็นฟันคุดมากที่สุด คือ ฟันกรามล่างซี่สุดท้าย ซึ่งอยู่ด้านในสุดของกระดูกขากรรไกรล่างทั้งขวาและซ้าย โดยปกติแล้วฟันซี่นี้ควรจะขึ้นในช่วงอายุ 18 – 25 ปี อาจโผล่ขึ้นอยู่ในลักษณะตั้งตรง เอียง หรือนอนในแนวระนาบ และมักจะอยู่ชิดกับฟันข้างเคียงเสมอ นอกจากนี้ฟันซี่อื่น ๆ ก็อาจจะคุดได้ เช่น ฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อยแต่พบได้น้อยกว่าฟันกรามล่างซี่สุดท้าย เราสามารถแบ่งชนิดของฟันคุดได้ง่ายๆ โดยดูจากความสัมพันธ์กับฟันข้างเคียง ดังนี้ 1. ฟันคุดชนิดล้มไปข้างหน้า – ฟันคุดชนิดนี้ ขณะกำลังขึ้น จะดันฟันซี่ข้างหน้า ทำให้มีอาการเหมือนปวดฟันได้ – อาจจะโผล่มาในช่องปากเพียงบางส่วนหรือฝังอยู่ในกระดูกทั้งหมดก็ได้ 2. ฟันคุดชนิดวางตัวในแนวราบ โดยแกนตามความยาวของฟันคุดจะอยู่ในแนวนอนเมื่อเทียบกับฟันซี่ข้างหน้า ฟันคุดชนิดนี้ มักจะฝังตัวในกระดูกทั้งหมด 3. ฟันคุดชนิดตั้งตรง ขึ้นมาได้เพียงบางส่วน ในกรณีที่มีเนื้อที่มากพอ ฟันคุดซี่ดังกล่าวอาจจะขึ้นมาได้เหมือนซี่ฟันปกติได้ 4. ฟันคุดชนิดเอนไปข้างหลังของช่องปาก ส่วนใหญ่ฟันคุดชนิดนี้มักจะขึ้นมาในช่องปากได้บางส่วนหรืออาจจะขึ้นมาได้ทั้งหมดก็ได้
ศ. ทพ. ณัฐเมศร์ วงศ์สิริฉัตร ภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล เมื่อคุณฟันคุดจะทำอย่างไร ฟันคุดเกิดจากสาเหตุใด ฟันคุด คือ ฟันที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ เนื่องจากมีฟันเนื้อเยื่อหรือกระดูกปิดขวางอยู่ มักพบในฟันกรามซี่สุดท้ายและฟันเขี้ยว ถ้าไม่ถอนจะมีอันตรายหรือไม่ ถ้าไม่ถอนฟันคุดออกมีโอกาสทำให้เกิดอันตรายได้ ขึ้นอยู่กับสภาพของฟันและเวลาที่ปล่อยทิ้งไว้ อาจะเกิดอันตรายได้ เช่น 1. การอักเสบของเหงือก เมื่อฟันกรามซี่สุดท้ายขึ้น อาจจะมีการอักเสบของเหงือก เนื่องจากมีการติดเชื้อ มีอาการบวมแดง มีหนอง ทำให้ปวด มีไข้ และเจ็บคอ กลืนน้ำลายลำบาก และอ้าปากไม่ได้ 2. ฟันซ้อนเก ทำให้ปวดเนื่องจากมีแรงดันของฟันคุดไปดันซี่ข้างเคียง หรือกดบนเส้นประสาทที่อยู่ในขากรรไกรล่างและฟันคุด ซึ่งขึ้นชนฟันที่อยู่ข้างเคียงจะทำให้ฟันหน้าซ้อนเกได้ 3. ถุงน้ำรอบฟันคุด ทำให้เกิดโรคถุงน้ำและอาจเปลี่ยนเป็นเนื้องอกที่เรียกว่า "มะเร็งกรามช้าง" ซึ่งพบว่ามีสาเหตุเกิดจากฟันคุดถึง 33% ถุงน้ำจะทำให้ฟันเคลื่อนที่ผิดจากตำแหน่งเดิมและละลายกระดูกรอบฟัน ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อฟันและเหงือกรอบๆ นั้นได้ 4. ฟันข้างเคียงผุ ฟันคุดซี่สุดท้ายที่ขึ้นชนฟันกรามซี่ติดกัน มักทำให้เกิดกลิ่นปากและฟันข้างเคียงผุ เนื่องจากมีเศษอาหารติดระหว่างฟันคุดและฟันข้างเคียง เนื่องจากทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง การถอนฟันคุด ทำอย่างไร เนื่องจากฟันคุดเป็นฟันที่มีฟันเนื้อเยื่อหรือกระดูกปิดขวางอยู่ จึงไม่สามารถใช้คีมจับถอนได้อย่างฟันปกติ จึงต้องใช้วิธี ผ่าเหงือก ตัดกระดูก และตัดฟันออกทีละชิ้น จึงสามารถเอาฟันคุดออกมาได้ทั้งหมด โดยไม่ทำอันตรายต่อฟันข้างเคียง หรือส่วนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้น ข้อปฏิบัติหลังผ่าตัดฟันคุด 1.
โรคปริทันต์ หลังรับประทานอาหารมักพบเศษอาหารติดอยู่ระหว่างฟันคุดกับฟันกรามซี่ด้านข้าง จากนั้น จะเกิดการหมักหมม และเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อ และอักเสบขึ้นได้ รวมถึงมีการละลายของกระดูกฟัน เกิดเป็นร่องลึกปริทันต์ด้านหลังทำให้ฟันกรามซี่ด้านข้างโยกและอาการขยายรุนแรงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องถอนฟันคุดออกก่อนที่จะเกิดการอักเสบหรือขณะที่มีอาการอักเสบไม่รุนแรง 3. ฟันผุ การเติบโต และขยายจำนวนของเชื้อแบคทีเรียจากการอาศัยเศษอาหารที่ติดในซอกฟัน ทำให้เกิดอาการฟันผุทั้งฟันผุในฟันคุด และฟันข้างเคียงที่ติดกัน และถึงแม้จะอุดรอยฟันผุแล้วก็ตาม ก็ยังมีโอกาสเกิดฟันผุได้อีก ดังนั้น การถอนฟันคุดออกก่อน จึงเป็นการช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี 4. การละลายของรากฟัน แรงดันที่เกิดจากการเจริญของฟันคุดอาจทำให้รากฟันของฟันกรามซี่ที่ติดกันละลาย จนทำให้รากฟันตาย เกิดการอักเสบ และอาการปวดได้ 5. การเกิดถุงน้ำ ฟันคุดของขากรรไกล่างมักเกิดถุงน้ำได้บ่อย (dentigerous cyst) กว่าฟันคุดขากรรไกรบน แต่ทั่วไปจะไม่พบอาการปวดแต่อย่างใด และไม่สามารถสังเกตเห็นได้หากไม่ใช้ภาพถ่ายรังสี การเกิดถุงน้ำนี้ มีผลค้างเคียง คือ รากฟัน และกระดูกขากรรไกรค่อยๆถูกทำลาย บางราย พบอาการบวมหรือการขยายของกระดูกขากรรไกรนอกจากนั้น ถุงน้ำที่เกิดขึ้นจะดันฟันคุดให้เคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมได้ 6.
สวัสดีค่ะ คุณ Nantaporn Sripadung, อาการปวดฟัน และฟันโยกอาจเกิดจาก 1. ฟันผุ ซึ่งหากผุลึกเกินชั้นเคลือบฟันลงไปจนถึงชั้นเนื้อฟัน จะทำให้มีอาการเสียวฟันเมื่อทานของหวานจัด เย็นจัด หรือร้อนจัดได้ และเกิดอาการปวดเวลาเคี้ยวอาหาร เนื่องจากไม่มีเคลือบฟันมาปกคลุมชั้นเนื้อฟัน ทำให้เนื้อฟันสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ที่เข้าปากโดยตรงและส่งความรู้สึกไปที่ประสาทฟัน 2. โรคเหงือกอักเสบ เกิดจากการมีคราบหินปูนสะสมบนเหงือกส่วนที่หุ้มฟัน ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตและเกิดการอักเสบตามมา หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา ก็จะกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis) ซึ่งทำให้เหงือกในชั้นที่ยึดติดกับรากฟัน เยื่อปริทันต์ รากฟัน และกระดูกเบ้าฟันเกิดการอักเสบ ฟันจึงเกิดการโยกและทำให้ฟันหลุดได้ 3. ฟันคุด ซึ่งนอกจากจะทำให้ปวดแล้ว ยังทำให้ฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียงผุง่ายขึ้น และอาจทำให้เกิดการละลายตัวของกระดูกรอบรากฟันและกระดูกรากฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียง จากแรงดันจากฟันคุดที่พยายามดันขึ้นมา ทำให้ฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียงโยกได้ แนะนำว่าควรต้องไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใดและทำการรักษา ซึ่งหากอาการยังไม่รุนแรง อาจไม่จำเป็นต้องถอนฟันก็ได้ แต่หากปล่อยไว้ไมรักษา ไม่ว่าจะสาเหตุใด ย่อมมีโอกาสทำให้สุญเสียฟันไปได้ และอาจส่งผลต่อฝันซี่อื่นๆ ซึ่งอาจทำให้ต้องสูญเสียฟันไปหลายซี่ก็ได้ค่ะ
กัดผ้าก๊อตให้แน่นพอสมควรไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเอาผ่าก๊อตออก 2. ถ้าเลือดไหลไม่หยุด ห้ามอมน้ำแข็ง ควรใช้น้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกและห่อผ้ามาประคบนอกปากบริเวณที่ผ่าตัดฟันคุด 3. แปรงฟันได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้แปรงฟันแรงๆ ตรงแผลผ่าตัด 4. ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ หลังผ่าตัด 5. ถ้าปวดให้รับประทานยาแก้ปวดตามที่ทันตแพทย์แนะนำ 6. ถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบมาพบทันตแพทย์ 7. ถ้ามีการเย็บแผลต้องกลับมาตัดไหมภายใน 7 วัน หลังผ่าตัด
Sitemap | g-torrent.ru, 2024